AI คืออะไร คำนี้เราได้ยินกันมานานแสนนาน อาจจะถี่หน่อยก็ช่วงที่ผ่านมา ครั้งแรกที่ได้ยินคุณนึกถึงอะไร หลายคนอาจติดภาพของหุ่นยนต์ปัญญากลที่เราเคยเห็นจากในจอโทรทัศน์และภาพยนตร์ต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา แต่บอกได้เลยว่าเราใช้ AI อยู่ในชีวิตแทบทุกวันโดยไม่รู้ตัว เพราะมันแทรกซึมไปทุกภาคกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การผลิต การแพทย์ การคมนาคมและอีกหลายๆ ด้าน แม้กระทั่งการติดต่อสื่อสาร การตลาด การขาย และการบริการลูกค้า หากพูดถึงสิ่งที่เป็นผลิตภัณฑ์ล้ำยุคที่เกิดจาก AI ขณะนี้ยังมีอยู่ในตลาดโลกเพียง 5% แต่จากนี้ไปจะสำคัญกับทุกภาคธุรกิจต่อไปอีก 5-20 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว ทีนี้คุณพอจะรู้ตัวแล้วรึยังว่า AI แค่ 5% ที่ว่านั้นอยู่ในชีวิตคุณจริงๆตรงไหนบ้าง
AI มาจากไหน?
คำว่า AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นศาสตร์วิทยาการทางคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยต่างลงมือทุ่มเทสุดตัวพยายามพัฒนาทำให้สิ่งนี้ฉลาด เหมาะสม และบริบูรณ์ด้วยความสามารถอันเปี่ยมล้น ศาสตร์นี้ไม่ได้เพิ่งจะมาพัฒนากันไม่กี่ปี หากแต่แนวความคิดนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ และถูกพัฒนาส่งต่อมากว่าหลายร้อยปีจนมาถึงยุคปัจจุบัน เราเชื่อว่าจากนี้ไปในปี 2018 ปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ จนคุณแทบจะลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เราต่างเคยใช้ชีวิตกันยังไงโดยที่ไม่มีเจ้านวัตกรรมใหม่นี้ขึ้นมา
การทำงานของ AI คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกพัฒนาให้มีตรรกะการคิดเป็นของตัวเอง เป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีความชาญฉลาด สามารถทำงานหรือใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหาในด้านความเป็นเหตุเป็นผล โดยเชาว์ปัญญานั้นสามารถแสดงเหตุผล การเรียนรู้ การวางแผนหรือนำเสนอความสามารถอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น การประมวลผลจากข้อมูลที่เราให้ไป หรือการแสดงผลอัตโนมัติจากข้อมูลที่มีอยู่ เรียกได้ว่าเลียนแบบโครงข่ายประสาทของสมองของมนุษย์เลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันการทำงานของ AI มีความแม่นยำสูงมาก จนแทบไม่พบข้อมูลผิดพลาด ทั้งยังสามารถทำงานได้ในระยะเวลาที่กำหนด และทำได้ตลอดเวลา 24 ชม. 7 วันเลยทีเดียว
สรุปแล้ว AI จะเข้ามามีบทบาทกับคนทั้งโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
คุณต้องเคยใช้แล้วอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตแหละน่า อนึ่ง… คุณเคยใช้ผู้ช่วยที่สั่งการด้วยเสียงอย่างเช่น Apple Siri, Google Now, Microsoft Cortana รวมถึงการสั่งพิมพ์ด้วยเสียงใน LINE หรือไม่ หรือเคยได้ยินกระแส Conversational Action จาก Smart Speaker หรือลำโพงอัจฉริยะอย่าง Google Home หรือ Amazon Echo หรือเปล่า เหล่านี้มี AI เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฎิบัติการให้เราสามารถสั่งการและโต้ตอบได้ตั้งแต่ สตรีมเพลง ฟังวิทยุ ไปจนถึงการจัดการควบคุมเครื่องใช้ภายในบ้านให้สามารถเปิด-ปิด-ปรับอุณหภูมิ และฟังก์ชั่นอื่นๆได้ ทั้งยังสามารถช่วยจัดการตารางต่างๆของเรา ช่วยเตือนความจำ เรียกรถโดยสาร ไปจนถึงแนะนำร้านอาหาร ตรวจสอบสภาพอากาศ และการจราจรก่อนการเดินทาง เหล่านี้เกิดจากการพัฒนา AI ทั้งนั้น
นอกจากนั้นยังมี Chatbot ที่เป็นผู้ช่วยคอยตอบคำถามเบื้องต้นของลูกค้าได้ตลอดเวลา ทำให้การทำธุรกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน ในไทยเห็นจะมีตัวอย่างจากแอปพลิเคชัน Wong Nai ก็มีการใช้ Chatbot ที่สามารถโต้ตอบและบอกพิกัดร้านอาหาร จนตอนนี้ก้าวขึ้นมาอันดับ 1 ในไทยเป็นการเปิดมิติใหม่ของ Lifestyle Platform อย่างเต็มรูปแบบ ที่สามารถจ่ายเงินผ่านแอพ E-payment หรือจัดส่งอาหารผ่าน LINE MAN เป็นต้น นี่ก็ถือว่าเราได้มีโอกาสใช้ AI ในชีวิตกันจริงๆแล้วล่ะค่ะ
Digital Marketing Executive | Aware Group ตั้งใจที่จะส่งมอบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เขียนให้อ่านง่ายและเข้าใจง่าย แม้ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมาก่อนก็สามารถศึกษาร่วมกันได้ ยินดีที่จะนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจด้านเทคโนโลยี มาร่วมเรียนรู้ด้วยกันนะคะ