เมษายน 23, 2019
11 วิธีสู่เช้าวันจันทร์ที่สดใส ห่างไกล Monday Blues
ตื่นเช้าเริ่มต้นวันจันทร์วันแรกของสัปดาห์การทำงาน คุณรู้สึกกังวล เครียด หรือหดหู่หรือเปล่า? ถ้าคุณพยักหน้าตอบใช่กับคำถามนี้ คุณอาจมีอาการของ Monday Blues หรือโรคเกลียดวันจันทร์นั่นเอง แต่ไม่ต้องกลัว เรามีวิธีแก้มาบอก
อาการ Monday Blues เป็นอย่างไร?
แค่นึกถึงวันจันทร์ก็ไม่สบายใจแล้ว ทั้งงาน ทั้งคน ทั้งการเดินทางที่แสนวุ่นวาย และปัญหาที่แก้ไม่จบอีกมากมายที่ไม่อยากนึกถึง มีหลายคนเป็นโรคนี้กันจน Monday Blues แทบจะกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมของหลายประเทศไปเลย มันบ่งบอกถึงการขาดซึ่งความสุขความสบายใจในการทำงาน ทั้งๆที่ความจริงคุณควรจะรู้สึกตื่นเต้นและมีพลังในวันจันทร์เพื่อเพลิดเพลินไปกับการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเยียมไปตลอดทั้งอาทิตย์ แทนที่จะมีอาการเหนื่อยหน่ายและหดหู่ แถมความรู้สึกลบเหล่านั้นยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และอาจส่งผลไปถึงสภาพแวดล้อมการทำงานกับเพื่อนร่วมงานของคุณอีกด้วย
เรามาดูวิธีรับมือกับอาการนี้กันดีกว่า
1. ค้นหาความกังวลที่แท้จริง
สมองเราเวลากลัวหรือกังวลอะไรสักอย่างจะคิดเยอะไปหมดจนสะเปะสะปะ เราอยากให้คุณตั้งสติแล้วลองใคร่ครวญค้นหาถึงต้นตอของเรื่องให้เจอให้ได้ เช่น คุณกังวลว่าประชุมเช้าวันจันทร์จะพรีเซ็นต์ได้ไม่ดี แต่ทำไมถึงจะทำได้ไม่ดี เนื้อหาที่เตรียมไว้ยังไม่พร้อม ขาดการซ้อมพูดที่ลื่นไหล หรือทำสไลด์ไม่ทัน ข้อไหนคือปัญหาที่แท้จริงกันแน่ เมื่อคุณพบแล้วก็จงแก้ไขมันซะ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกกังวลนี้วนต่อไปเรื่อยๆ
2. วางแผนรับมือกับปัญหา
ในเมื่อเรารู้ว่าปัญหาคืออะไร เตรียมวางแผนการทำงานไว้เลยจะดีกว่า ยิ่งวางแผนให้รัดกุมได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี เราขอแนะนำให้คุณรีบจัดการงานที่อยู่ในแผนของอาทิตย์ถัดไปให้เสร็จเรียบร้อยภายในเย็นวันศุกร์หรือแย่ที่สุดในวันอาทิตย์ก็ยังดี แทนที่จะปล่อยให้เมฆหมอกดำทะมึนลอยวนอยู่ในหัวของคุณ จัดการเวลาจัดแจงตารางงานให้ลงตัว สร้างระเบียบวินัยการทำงานส่วนตัวให้ดีขึ้น และอย่าลืมให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ ว่า ฉันเอาอยู่ เรื่องแค่นี้สบายมาก
3. ลิสต์ 3 สิ่งที่ทำให้คุณมีพลัง
ในมุมของคนทำงานเรามักจะมองไป 1 อาทิตย์ล่วงหน้าเสมอ เราอยากให้คุณลองลิสต์ 3 สิ่งที่แทรกอยู่ในอาทิตย์นั้น ที่คุณกำลังรอคอยมันอย่างใจจดใจจ่อ แค่นี้พอจะทำให้คุณสามารถบิลด์อารมณ์เชิงบวกขึ้นมาได้แล้ว แต่ถ้าในอาทิตย์นั้นคุณคิดแล้วคิดอีก แต่ก็นึกไม่ออกสักทีว่าจะมีอะไรทำให้คุณตื่นเต้นได้ นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างแล้วล่ะ
4. เสาร์–อาทิตย์–วันหยุดใช้ให้คุ้ม
ก็แหมนี่มันวันหยุดแล้วนี่นา เราอยากให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ใช้เวลาของคุณไปกับสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุขได้เป็นเรื่องที่ดีที่สุด หากเป็นไปได้พยายามหลีกเลี่ยงการเปิดอ่านอีเมลงาน เพื่อสร้างขอบเขตชัดเจนระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัว แค่นี้ก็สามารถช่วยรักษาอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดและความผ่อนคลายไว้ได้ จบวันศุกร์ก็ทิ้งเรื่องราวทั้งหมดของการทำงานไว้ที่ออฟฟิศ อย่าแบกมันไปไหนมาไหนด้วยตลอด จนคุณรู้สึกเหมือนว่าไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์เลย
5. นอนหลับให้เพียงพอและตื่นเช้าๆ
เข้านอนให้เร็วขึ้นในคืนวันอาทิตย์และนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้คุณตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย เพราะหากคุณได้พักผ่อนเพียงไม่กี่ชัวโมง แล้วต้องมาได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกในขณะที่ร่างกายและสมองของคุณยังไม่พร้อม ความรู้สึกแย่ๆกับการเริ่มต้นอาทิตย์ใหม่มาหาคุณถึงเตียงนอนอีกครั้งแน่ๆ เราแนะนำว่าเช้าวันจันทร์คุณควรมีเวลาเพิ่มให้ตัวเองได้เตรียมใจ เดินเล่น ทานอาหารเช้า เตรียมความคิดที่ดีสำหรับวันนั้น โดยตื่นให้เช้ากว่าเดิมอีก 15-30 นาที มันอาจทำให้คุณไปถึงออฟฟิศเร็วขึ้น แถมมีความพร้อมในการรับมือกับงานในเช้าวันจันทร์นั้นได้ดีขึ้นอีกด้วย
6. Dress for success
การแต่งตัวดีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้คุณสำเร็จในหน้าที่การงานได้เลยนะ ความจริงนี้เกิดขึ้นแล้วทุกยุคทุกสมัย เราอยากให้คุณเฉิดฉาย เปล่งประกาย และส่งต่อพลังงานบวกให้คนอื่น แล้วการแต่งตัวเกี่ยวอะไรด้วย? เช้าวันจันทร์เราอยากแนะนำให้คุณสวมชุดใหม่หรือชุดที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษ สิ่งนี้สามารถช่วยสร้างความรู้สึกบวก พร้อมมอบรอยยิ้มและพลังงานที่สดใสต่อไปให้กับเพื่อนร่วมงานได้ เพราะเวลาที่เรารู้สึกว่าเราดูดี เราจะมีความมั่นใจและสุขสดชื่น แน่นอนเช้าวันนั้นจะต้องมีคนออกปากชมคุณบ้างล่ะ ทีนี้ความตั้งใจที่ดีประกอบกับอารมณ์ดีก็ทำให้วันของคุณส่องสว่างไปอีก หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับทุกคนลองคิดดูสิว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณจะมีพลังแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อคนในองค์กรและช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของวันนั้นดีขึ้นทางอ้อมอีกด้วย
7. คิดบวกเข้าไว้
ให้นึกถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น เราอยากให้คุณจดจำ ซึมซับ และเพลิดเพลินกับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขในเวลาทำงาน นึกถึงสิ่งดีๆเหล่านี้ก่อนที่คุณจะเริ่มลงมือทำงาน หรืออาจหาตัวช่วยเพื่อที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย เตรียมพร้อมกับการทำงาน เช่น การเปิดเพลงโปรดฟัง จะว่าไปแล้วทำเพลย์ลิสต์เตรียมไว้เลยก็ดีนะ เอาหลายๆแบบ ทั้งเพลงสำหรับการสร้างสมาธิ เพลงสนุกเร้าอารมณ์ เพลงที่ให้ความรู้สึกสดใสสดชื่น นอกจากนั้นทันทีที่ก้าวเท้าเข้าออฟฟิศจงถอดนิสัยขี้บ่นขี้จุกจิกกับเรื่องไร้สาระออกไปให้หมด แล้วท่องไว้ในใจว่าเช้านี้เป็นอีกเช้าที่ดีสำหรับฉัน เสร็จแล้วทำวันนั้นให้ดีตามที่เราตั้งใจไว้
8. ทำให้คนอื่นมีความสุข
เราอยากให้คุณมีความตั้งใจทำสิ่งที่ดีให้กับคนรอบข้าง เวลาที่คุณไปทำงานในเช้าวันจันทร์ สิ่งนี้ช่วยยกระดับจิตใจได้นะ แถมช่วยเปลี่ยนอารมณ์โดยรวมในออฟฟิศของคุณได้ด้วย คุณอาจจะไม่ต้องนึกถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้เราพูดถึงเรื่องการแต่งตัวใช่ไหม คุณอาจเอ่ยชมเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือพวกเขาเล็กๆน้อยๆในออฟฟิศ ตั้งใจให้บริการลูกค้า ช่วยเหลือคนแปลกหน้าระหว่างทาง หรือวิธีง่ายๆอื่นๆที่ทำให้วันของคนรอบข้างดีขึ้นอีกนิด แค่นี้คุณก็ได้รับความสุขตามไปด้วยแล้วล่ะ
9. ขยับแผนซักหน่อยจะเป็นไร
แน่นอนว่าวันจันทร์เป็นวันที่โกลาหลที่สุดของอาทิตย์ แต่การจัดตารางงานวันจันทร์ของคุณไม่ให้แน่นจนเกินไปนัก หรือถ้าให้ดีเอาให้เบาลงได้จะดีมาก เช่น ลองเปลี่ยนการนัดประชุมแสนเครียดจากเช้าวันจันทร์เป็นวันอังคารหรือวันพุธ แทนที่จะต้องรับมือกับงานหินๆ ปัญหาหนักๆ และความเร่งรีบที่รุมเร้า แล้วหลีกเลี่ยงและยืดความตึงเครียดสะสมของการทำงานให้คลายลง เพื่อให้คุณได้สบายใจขึ้น รับมือทางอารมณ์ได้ดีขึ้นในวันต้นๆของสัปดาห์ก็น่าจะดีกว่า แต่เรามีคำเตือนอีกนิดว่า เบาๆไม่ได้หมายถึงให้เบาจนคุณว่างงานนะ เพราะไม่งั้นจะกลับมานั่งนอยด์และหดหู่อีกเนี่ยสิ
10. มีเวลาสนุกบ้างตอนอยู่ที่ทำงาน
เราอยากให้คุณสนุกกับการทำงาน ใช้เวลากับตัวเองเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ที่คุณชอบที่ออฟฟิศในวันจันทร์ด้วย เช่น ดื่มกาแฟเจ้าโปรด ซื้อโดนัทมาฝากเพื่อนร่วมงาน แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ เหล่านี้ถือเป็นการสร้างสัมพันธ์ แถมได้กระชับมิตรภายในให้แข็งแกร่งทีละเล็กทีละน้อยด้วย เราเชื่อว่าความสุขน้อยๆเหล่านี้อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณตั้งหน้าตั้งตารอมาทำงานในอาทิตย์ถัดไปไม่ไหวแล้วก็ได้
11.วางแผนสนุกๆทำในเย็นวันจันทร์
อย่าปล่อยให้วันจันทร์ของคุณจบไปแบบเอาเป็นเอาตาย หรือย่ำเท้าซ้ำๆอยู่กับปัญหาน่าปวดหัว จัดการการทำงานให้มีประสิทธิภาพด้วยทัศนคติที่ดี ตั้งใจทำงาน ทำให้เต็มที่ พอเสร็จแล้วก็ออกไปใช้เวลาตอนเย็นอย่างมีความสุข นัดเพื่อนทานข้าว ดูหนัง เดินเล่นในห้าง กลับไปบ้านรอคนที่คุณรัก หรือนอนดูรายการโปรดหน้าทีวี ทำอะไรก็ได้ที่คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำงานจนเกินไป เพื่อตัดวงจรความกังวลที่จะวนมาเป็นลูป ดึงคุณให้เครียดซ้ำไปซ้ำมา หมดเวลางานแล้วก็พักผ่อน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันถัดไป
เราเชื่อว่าต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งวิธีจากทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถช่วยคุณให้พ้นจาก Monday Blues ไปได้
#ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ
#AwarePeople
- Business Analyst ทำอะไร? สำคัญอย่างไรในอาชีพสายไอที? - พฤษภาคม 12, 2023
- 4 แนวทางเอาชนะ Burnout ในการทำงานสาย Tech - มีนาคม 10, 2023
- 5 อุปสรรคของผู้หญิงในการทำงานสาย Tech ในปัจจุบัน - มีนาคม 8, 2023
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่2) - มกราคม 17, 2023
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่1) - มกราคม 17, 2023
- จบไม่ตรงสายจะเปลี่ยนสายงานมาเป็น Developer ได้อย่างไร - มกราคม 17, 2023
- เราจะสร้าง Digital Footprint ที่เป็นมิตรต่อการสมัครงานได้อย่างไร - มีนาคม 29, 2022
- Digital Footprint ร่องรอยบนดิจิทัลที่เราทิ้งไว้สำคัญแค่ไหน - มีนาคม 29, 2022
- Hybrid Working – รูปแบบใหม่ของการทำงาน | Aware Group - ธันวาคม 7, 2021
- บางนา มามะ จะพาไปดู - พฤศจิกายน 12, 2021