มีนาคม 5, 2020
ความสุขง่ายๆสร้างได้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น | วิธีการฝึกเพิ่มความสุขให้ตัวเอง
เนื้อหาโดย คุณวรรณิภา ตัวตน | Group Legal Director | Aware Group
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ทำไมยังทุกข์ใจกันเหลือเกิน แน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะบอกว่า ก็แค่คิดบวก อยากสุขมากก็บวก ++++กันเข้าไป ไม่คิดในแง่ลบก็มีความสุขได้แล้ว เห็นด้วยค่ะ แต่แนะนำให้คิดต่อว่า แล้วทำอย่างไรล่ะ เพื่อให้สุขอย่างมั่นคงหรือสุขเสถียร วิธีการของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่เราขอนำเสนอวิธีการฝึกด้วยตัวเองตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหัวถึงหมอนแล้วหลับผลอยไป มาค่ะเริ่มกันเลย
- ส่องกระจกทุกเช้า หลังตื่นนอนเราต้องส่องกระจก การมองตัวเอง มองให้ลึกเข้าไปในแววตาของตัวเอง เป็นการสำรวจความรู้สึกของตัวเองที่ดีที่สุด เพราะบางครั้งเราอาจจะอารมณ์ค้างจากสถานการณ์ของเมื่อวานหรือวันก่อนๆ ซึ่งส่งผลมาในตอนเช้า ความครุ่นคิดหรือปัญหาต่างๆที่ยังค้างคาอยู่ในใจ บางครั้งหาทางออกไม่ได้ แววตาของเราจะสื่อได้ชัดเจนมาก หากเป็นเช่นนี้ เราไม่ควรออกไปพบปะผู้คนด้วยอารมณ์แบบนั้น การปลอบใจตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องฝึกยิ้มให้กับตัวเอง ให้ลองทำดู เมื่อคุณเห็นตัวเองยิ้ม ยิ้มอย่างจริงใจ ไม่แสแสร้ง คุณจะยิ่งยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว นั่นคือความสุขแรกของวันนั้นจากคนในกระจกเงา ไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาจากใครที่ไหนเลย
- ขอบคุณตัวเองทุกเช้า ต้องฝึกพูดดีๆกับตัวเอง (พร้อมกับการส่องกระจกยิ่งดี) ขอบคุณที่ได้ตื่นมาอีกหนึ่งวัน และอธิษฐานจิตให้ตัวเองมีความสุข ต้องชื่นชมตัวเองให้เป็น แต่ก็ไม่ใช่การโอ้อวด การถ่อมตนบ้างทำให้ดูมีคุณค่าน่าคบหา แต่อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด ทุกคนมีคุณค่ามีความดีงามต่างกัน
- สร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง ทุกวันที่ตื่นมาจะต้องบอกกับตัวเองให้ได้ว่าวันนี้จะทำอะไร พลังความมุ่งมั่นจะต้องมี เช่น ฉันจะทำงานโดยไม่มีข้อผิดพลาด ฉันจะคุยกับคนอื่นให้รู้เรื่องมากขึ้น ฉันจะต้องพูดให้ลูกค้าคล้อยตาม ซึ่งเราต้องมีความคิดนำเสมอว่า จะทำอะไรก็ตาม ขอให้สำเร็จสมหวังได้ดั่งใจ ให้ความหวังกับตัวเองเสมอว่าวันนี้ต้องเป็นวันที่ดีที่สุดของเรา
- ทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ อาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายและจิตใจ คนเราเมื่อได้ทานสิ่งที่ชอบย่อมมีความสุข เบิกบาน สำราญใจ ยิ่งการทานสิ่งที่มีประโยชน์ด้วยแล้วยิ่งดี
- แต่งตัวให้ดูดี ดีต่อใจ ใครๆก็ชอบ เราต้องสร้างความพึงพอใจให้กับตัวเองก่อน ควรแต่งให้เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ต้องเอาใจใคร แต่งตัวตามแฟชั่นได้ แต่ไม่ควรพยายามจนไม่เป็นตัวเอง จงจำไว้ว่า เสื้อยืดไม่ได้เหมาะกับทุกคน เสื้อคอเต่าก็เช่นกัน คนผิวคล้ำก็ใช่ว่าจะใส่สีสันสดใสไม่ได้
- ต้องทำงานอย่างสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ แม้จะเป็นลูกจ้าง แต่ต้องคิดและทำเสมือนว่าเป็นเจ้าของกิจการ ต้องคิดให้ได้ว่าในตำแหน่งที่เราทำอยู่สามารถทำให้บริษัทเจริญก้าวหน้าได้อย่างไร ถ้าทุกคนทุกตำแหน่งคิดได้ ทำได้ ร่วมกันได้ บริษัทจะยิ่งเจริญรุ่งเรือง ใช้ต้นทุนอย่างเหมาะสม รายได้ทวีคูณ มีผลกำไรทุกปี เจ้าของ ผู้ถือหุ้น และพนักงานต่างได้รับผลตอบแทนกันถ้วนหน้า มีความสุขกันทุกคน ยิ่งสนุกกับการทำงาน
- มองคนอื่นในแง่ดีให้เป็น คนเราต่างมีข้อดีข้อเสียกันทุกคน หากเราต้องอยู่ร่วมกับใครหรือทำงานด้วยกันกับใครที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกใจ เราอาจปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องทำใจ แต่การทำใจให้สร้างสรรค์นั้นยิ่งเก๋ไก๋กว่า นั่นคือ ต้องคิดหาทางทำงานร่วมกันให้ได้และเกิดประโยชน์ จึงต้องหัดมองหาข้อดีของคนอื่น เจอบ้างไม่เจอบ้างก็ยังดีกว่าไม่เจอเลย หัดยอมรับข้อด้อยหรือข้อผิดพลาดของคนอื่นให้ได้ และติชมอย่างสร้างสรรค์
- ฟังให้มาก เรื่องนี้ใช้ได้ดีกับทุกการสนทนา ไม่ว่ากับครอบครัว เพื่อน ที่ทำงาน หรือกลุ่มคนใหม่ๆที่เพิ่งพบเจอ ต้องฝึกและมีความอดทนที่จะฟังเรื่องของคนอื่นให้ได้ ยิ่งฟังมากยิ่งรู้มาก ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หรือตัดบทเพื่อชิงพูดในสิ่งที่ตนเองรู้ ค่อยพูดหรือแสดงความคิดเห็นเมื่อถึงโอกาส การอดทนฟังผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์น้อยกว่าก็ได้ประโยชน์ในบางแง่มุม หรือการทนฟังเรื่องยากๆที่ไม่เกี่ยวกับตัวเราเท่าไหร่นักก็มักมีประโยชน์ไม่คราวใดก็คราวหนึ่ง ดังนั้นการทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีย่อมดีเสมอ
- เสียสละให้เป็น บางครั้งเราต้องหัดหยิบยื่นให้คนอื่นก่อน ถึงแม้ไม่ได้อะไรกลับมา แต่ก็เกิดความสุขใจ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
- มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับยามท้อแท้หรือทุกข์ใจ คนเราควรที่จะมีใครสักคนไว้เป็นที่ปรึกษาหรือรับฟังความคิดเห็นหรือระบายความในใจ คนๆนั้นจะต้องรับฟังเราอย่างจริงใจและให้คำแนะนำที่ดี ให้แนวนางที่สร้างสรรค์ ลองมองหาใครสักคนที่อยู่รอบข้างตัวเราว่ามีใครบ้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนต่างแผนก เป็นต้น
หากเราฝึกคิดฝึกทำให้ได้แบบข้างต้นทุกๆวัน เราก็จะเกิดความเคยชินไปเอง กลายเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่กดดัน ไม่หมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนเป็นทุกข์ เห็นปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไม่ทุกข์ใจ ร่างกายผ่อนคลาย สมองไม่เคร่งเครียด ย่อมทำให้เกิดปัญญาหาทางออกได้อย่างง่ายๆ
หวังว่าเรื่องง่ายๆแบบนี้จะเป็นแง่คิดดีๆให้กับคนทำงานทุกคนได้นำไปลองปฏิบัตินะคะ และขอให้มีความสุขกับการทำงานค่า อย่าลืมนะคะ “สุข-ทุกข์อยู่ที่ใจ” ใครทำให้เราทุกข์อย่าไปคิดทำให้เขาทุกข์กว่า ทางแก้คือตัวเราเท่านั้น
เนื้อหาโดย คุณวรรณิภา ตัวตน | Group Legal Director | Aware Group
- Business Analyst ทำอะไร? สำคัญอย่างไรในอาชีพสายไอที? - พฤษภาคม 12, 2023
- 4 แนวทางเอาชนะ Burnout ในการทำงานสาย Tech - มีนาคม 10, 2023
- 5 อุปสรรคของผู้หญิงในการทำงานสาย Tech ในปัจจุบัน - มีนาคม 8, 2023
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่2) - มกราคม 17, 2023
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่1) - มกราคม 17, 2023
- จบไม่ตรงสายจะเปลี่ยนสายงานมาเป็น Developer ได้อย่างไร - มกราคม 17, 2023
- เราจะสร้าง Digital Footprint ที่เป็นมิตรต่อการสมัครงานได้อย่างไร - มีนาคม 29, 2022
- Digital Footprint ร่องรอยบนดิจิทัลที่เราทิ้งไว้สำคัญแค่ไหน - มีนาคม 29, 2022
- Hybrid Working – รูปแบบใหม่ของการทำงาน | Aware Group - ธันวาคม 7, 2021
- บางนา มามะ จะพาไปดู - พฤศจิกายน 12, 2021