เป็นโปรแกรมเมอร์สุดจะเท่ คุณว่าจริงไหม?

 

คุณว่าจริงรึเปล่า?

 

ลองมาดูสิว่าทำไมใครๆก็บอกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์นั้นถึงเท่จังเลย

 

 

1. หล่อ/สวยเลือกได้ (ไม่หล่อไม่สวยก็ยังได้!) – อ๊ะๆๆ ไม่ได้หมายถึงเลือกแฟนนะจ๊ะ แต่หมายถึงเลือกประเภทธุรกิจที่อยากทำงานด้วยจ้ะ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจดิจิตัล วิดีโอเกมส์ งานวิจัยทางชีวภาพ ธนาคาร ประกันภัย การแพทย์ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ขอแค่คุณมีความสามารถ คุณก็เข้าไปทำงานได้เลย! เพราะธุรกิจเหล่านี้ล้วนต้องการเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนและสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การใช้ Software ในการช่วยอำนวยความสะดวกในธุรกิจนั้นๆ ถ้าคุณคิดว่าคุณเจ๋งก็กระโจนเข้ามาเลย!

 

 

2. เนื้อหอมสุดๆ – ฮั่นแน่! อย่าเพิ่งรีบเขินนะ เราหมายถึงคุณเนื้อหอมสำหรับนายจ้างยุคนี้สุดๆ เพราะ 24 ชั่วโมงของคุณตั้งแต่ตื่นยันหลับ คุณแทบจะหนีไม่พ้น เทคโนโลยีอันทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร การเรียกรถแท็กซี่ หรือการซื้อตั๋วหนังผ่าน Mobile application โลกของเรายังต้องการคนมีความสามารถมารังสรรค์สิ่งเหล่านี้จำนวนมาก และคนมีความสามารถเหล่านั้นก็คือโปรแกรมเมอร์อย่างคุณนั่นเอง และเนื่องจากคนทำงานสายนี้มีไม่มาก ถ้าคุณมีฝีมือการ Coding ขั้นเทพ ใครๆก็ต้องการคุณทั้งนั้นเชื่อเรา!

 

 

3. ทรงอิทธิพลต่อยุค – คุณรู้จักพวกเขาเหล่านี้มั้ย Linus Torvalds, Sir Tim Berners-Lee, Donald Knuth, Donald Knuth, Solomon Hykes, John Carmack คุ้นๆมั้ย? โอเค… แล้วชื่อเหล่านี้ล่ะ? Mark Zuckerberg, David Heinemeier, Richard Stallman, Bram Cohen, Bram Cohen, Bjarne Stroustrup เอาล่ะ… เหนื่อยจะพิมพ์แล้ว เราอยากจะบอกว่า นอกเหนือจาก Mark Zuckeberg แล้ว รายชื่อทั้งหมดที่ถูกกล่าวมานั้นคือ Programmer ผู้ทรงอิทธิพลของยุคและของโลก โลกเราขับเคลื่อนไปได้เพราะผลงานของพวกเขาเหล่า-นี้-นี่-เองงงง #พากษ์ใหญ่ๆเน้นๆแบบทีวีแชมเปี้ยน

 

 

4. มีขนมเสิร์ฟถึงที่ – เดี๋ยวๆๆนะ… มันใช่เหรอ!? ก็ไม่ใช่ทุกอาชีพที่จะได้ทานขนมอร่อยๆ ระหว่างการทำงานนะขอบอก นี่เป็นข้อดีอีกอย่างของการเป็นโปรแกรมเมอร์เลย คือการได้กินขนมฟรีและดีย์จากเหล่า User ที่น่ารักตลอดเวลา แม้จะเป็นโมเมนต์เล็กๆ แต่การได้กินขนมอร่อยๆ ระหว่างทำงานก็ช่วยผ่อนคลายสบายอารมณ์อยู่ไม่น้อยนะจ๊ะ #พูดพลางกรีดนิ้วเอื้อมไปหยิบมาการอง Pierre Hermé Paris ขึ้นมากิน … 555 ล้อเล่นนะ!

 

 

5. มีสาวแอบกรี๊ด – อ๊ะๆ อย่าเพิ่งรีบคัดค้านนะจ๊ะ โปรแกรมเมอร์หนุ่มหลายคน มักจะชอบบอกว่าตัวเองอยู่หน้าคอมตลอดเวลา เจอสาวๆก็ไม่ค่อยกล้าทักก่อน ไม่ค่อยมีสาวมาสนใจหรอก บางคนอาจมองว่าโปรแกรมเมอร์เป็นสายเนิร์ดหรือเป็นโอตาคุ แต่จริงๆแล้ว โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนหนุ่มๆทั่วไปนี่แหละจ้า แต่อาจมีบ้างที่คุยไม่เก่งหรือขี้อาย เลยอาจดูเงียบๆเท่านั้นเอง แต่รู้มั้ยจ๊ะ…บางครั้งมาดนิ่งๆแบบเนี้ยสาวๆหลายคนก็แอบกรี๊ดไม่น้อยเลยนะขอบอก

 

 

6. ได้ฝึกภาษา – หลายคนคิดว่า Programmer จะต้องเก่งภาษาอังกฤษแน่นอน ซึ่งความเป็นจริงแล้วนั้น… เป็นการตีความของคนอื่นทั้งน้านนนเลย จริงอยู่ที่มีคนเก่งจริงๆและอีกส่วนเพิ่งมาได้ภาษาจากการทำงานนี่แหละ เพราะ Programmer หลายคนไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยประสบการณ์จากการอ่านคำศัพท์เทคนิคบางอย่างเวลาทำงานก็พอจะทำให้ หยิบมาจับใจความได้ และที่สำคัญบางคนก็ใช้ Google Translate Extension มาช่วยแปลคำศัพท์บางคำที่ไม่รู้จัก โดยรวมแล้วแม้ยังไม่เก่งแต่อีกหน่อยต้องเก่งขึ้นแน่ๆ โอกาสที่จะใช้ภาษาอังกฤษจนเก่งได้มาจ่อรอท่าอยู่แล้ว

 

 

7. งานสนุกสุดท้าทาย – การทำงานกับ Code จำนวนมหาศาลที่กระจายตัวเต็มผืนอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เห็นทีจะมีแต่โปรแกรมเมอร์เท่านั้นที่จะเข้าใจ เท่ไม่หยอกนะคุณว่าไหม? แม้ว่าคุณจะเป็นโปรแกรมเมอร์และเขียน Code ได้ นั่นก็ยังไม่พอ แต่คุณจะต้องสนุกกับ Coding และคิด Logic ต่างๆด้วย ซึ่งแน่นอนว่าภายใต้ความสนุกนั้นย่อมมีความท้าทาย ทั้งในเรื่องของการทำงานภายในเวลาอันจำกัด ไปจนถึงการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารกับทีม นำเสนองานกับลูกค้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในชีวิตการทำงาน ความท้าทายเป็นสิ่งหนึ่งที่ผลักดันให้เราพัฒนาฝีมือและโตขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ!

 

 

8. ไม่หยุดนิ่ง – เมื่อก้าวเข้ามาแล้วคุณจะรู้ว่าสายนี้ไปเร็วมาก เพราะมีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นตลอด ถ้าคุณไม่ชอบเรียน ไม่ชอบรู้ ไม่สามารถปรับความคิด หรือต่อยอดความรู้ไปได้เรื่อยๆ เหมือนผู้หญิงอย่าหยุดสวยแล้วล่ะก็… ยากส์! ในทางกลับกันพรสวรรค์ไม่สามารถบรรลุทุกอย่างได้ 100% ถ้าไม่มีพรแสวง และหากคุณมีแต่พรแสวงไม่มีพรสวรรค์เลย แล้วกลับพยายามเรียนรู้ฝึกฝนอยู่เสมอ ไฉนจะกลายเป็น Programmer ขั้นเทพเมพขิงๆไม่ได้ล่ะ จริงมั้ย?

 

 

9. จิตรกรแห่ง Software – โปรแกรมเมอร์นั้นเปรียบได้กับศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่าน Software ด้วยการใช้ Coding เป็นพู่กันในการรังสรรค์ผลงาน ไม่ว่าโจทย์ที่ได้มาจาก User จะเป็นอย่างไร หากแต่คุณได้ใช้จินตนาการ+ความรู้ สร้างสรรค์ Software ในสไตล์ของคุณโดยใช้ความ Creative ควบคู่ไปกับการใช้ Logic พระเจ้า…ผลงานจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว…ท่านจิตรกรแห่ง Software!

 

 

10. เติบโตได้อีก – การจะเติบโตนั้นจะต้องใช้เวลาควบคู่กับความพยายาม การเป็นโปรแกรมเมอร์นั้นถ้าคุณมีฐานเดิมที่แน่นกว่าใครในเรื่องของความรู้ทางเทคนิคอยู่แล้ว หากคุณไม่ปิดกั้นและเปิดกว้างในการหาความรู้ทาง Business ควบคู่ไปกับการสังเกตวิธี Manage งานของหัวหน้าทีม ฝึกฝน Social Skill ให้คล่องแคล่ว คุณก็สามารถเติบโตไปเป็น System Analyst, System Engineer ต่อได้ หรือหากคุณเป็นคนที่มีความสามารถด้าน Social skill มากๆ ก็สามารถเปลี่ยนสายงานไปอยู่ในส่วนของ HR ในบริษัท IT ก็ยังได้ เพราะคุณย่อมเข้าใจคนทำงานอย่างโปรแกรมเมอร์ ดีกว่าใครๆ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเองเยอะๆนะจ๊ะ

 

 

11. เงินเดือนดี – อ่านไม่ผิดหรอก นั่นคือการพิสูจน์ฝีมือของคุณเลยล่ะ ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มยอดขาย และช่วยลดต้นทุนของบริษัทได้รึเปล่า สื่อสารกับทีมและลูกค้าได้ฉมังแค่ไหน มีทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Logic, Algorithm, Concept , จินตนาการและประสบการณ์มากขนาดไหน ทั้งหลายเหล่านั้นย่อมส่งผลต่อมูลค่าในตัวของคุณเช่นกัน … ว่าแต่ว่าพอจะมีให้ยืมสัก 8,000 มั้ย?

 

 

12. มีเส้นทางในอนาคตมากมาย – งานสายนี้ยังมีโอกาสให้เดินไปหาได้อีกมากโดยเฉพาะการมาของ Big Data, Blockchain, AI , Quantum Computing ฯลฯ ที่เป็นเทคโนโลยีแห่งยุค นอกจากนี้เราจะเห็นสิ่งใหม่ๆเจ๋งๆเกิดขึ้นอีกมากมาย แต่ที่จะขาดไม่ได้เลยคือ Programmer ที่จะเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อผลักดันสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้นั่นเอง อาจจะเป็นคุณก็ได้ใครจะไปรู้

 

———————————–

ตอนนี้ Aware Outsourcing Services กำลังเปิดรับสมัคร Programmer จำนวนมากทั้งแบบ Permanent และแบบ Contract เพื่อทำงานที่ไซต์งานลูกค้าได้ (Thai Nationality Only!)

สมัครงานตำแหน่ง Programmer อีเมลหาเราได้เลยที่นี่: awaresocial@aware.co.th