เช้าวันใหม่ก่อนการเริ่มทำงาน ผู้เขียนได้มีโอกาสเปิดอีเมลล์ของจ๊อบส์ดีบีอ่านในขณะรอรถไฟฟ้าและสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หัวข้อเรื่อง “ประเด็นเล็กๆ ที่ให้ผลไม่เล็กเมื่ออัพเดทเรซูเม่” จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำแนะนำในการเขียนอัพเดทประวัติส่วนตัวก่อนการยื่นสมัครงาน ทำให้ผู้เขียนนึกถึงประสบการณ์ในครั้งสมัยเริ่มสมัครงานใหม่ๆ และเหตุการณ์ที่ไม่เคยโดนเรียกไปสัมภาษณ์นั้นก็ย้อนกลับขึ้นมา จำได้ว่าเวลาผ่านไปนานพอสมควรก็ยังไม่เคยโดนนัดไปสัมภาษณ์งานสักที เลยฉุกใจคิดทบทวนว่าเราขาดตกบกพร่องตรงไหน หรือเพราะประวัติส่วนตัวของตัวเองยังไม่น่าสนใจพอ เลยตัดสินใจปรึกษากับเพื่อนที่เป็นนักเขียนเก่งๆ ให้ช่วยอ่านประวัติที่เขียนขึ้นมา และเพื่อนก็ได้ให้คำแนะนำมาว่า ถ้าเรามัวแต่เขียนวกวน หรือเขียนบรรยายจนเกินความจำเป็นมากกว่าหนึ่งหน้ากระดาษขึ้นไป เราก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน
จากประสบการณ์ของผู้เขียนทำให้เรียนรู้อีกว่า การที่เราได้ให้ใครช่วยทบทวนการเขียนของเรา อาจจะได้คำแนะนำที่ดีและแตกต่างกันออกไป เพราะบางทีผู้เขียนเองก็อาจจะขาดตกบกพร่องใจความบางอย่างไป และต้องพยายามเรียนรู้จากคนเก่งๆ ด้วยตัวเองให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้อื่นจนเกินไป หรืออีกวิธีที่สามารถช่วยทบทวนการเขียนของตนเองได้ก็คือ หยุดเขียนแล้วลุกออกจากโต้ะไปยืดเส้นสักห้าถึงสิบนาที แล้วค่อยกลับมาอ่านทบทวนใหม่ บางครั้งที่ผู้เขียนก็สามารถตรวจหาคำสะกดผิด ปรับแก้ให้ถูกต้องเหมาะสมยิ่งขึ้น เพราะการที่เราไม่ได้เน้นสิ่งใดจนเกินไปทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดได้มากขึ้น
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การเขียนประวัติส่วนตัวและผลการทำงานมีส่วนสำคัญมากในการยื่นสมัครงาน และรวมไปถึงสำหรับการพิจารณาจากฝ่ายบุคคล สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงคือ การลำดับความสำคัญให้เหมาะสมและไม่ควรที่จะเขียนบรรยายให้ยาวจนเกินไป นั่นอาจจะทำให้พลาดจากการถูกเรียกสัมภาษณ์งาน เพราะไม่ได้เน้นความสำคัญให้เห็นเด่นชัด และนี่คือเกร็ดเล็กๆน้อยๆ สำหรับใครที่คิดจะยื่นประวัติส่วนตัวสมัครงาน
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่