ประโยชน์ของ AI กับการใช้งานในภาคธุรกิจ (3)

ด้วยขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นได้อยู่เสมอของ AI ทำให้หลายๆ ธุรกิจเริ่มหันมาตั้งคำถามแล้วว่าจะเอา AI ที่ชาญฉลาดมาใช้ในการทำงานได้อย่างไร ประโยชน์ของ AI กับการใช้งานในภาคธุรกิจอยู่ตรงไหนบ้าง เพราะนับวันองค์กรต่างๆ ก็จะมีเทคโนโลยีกลายเป็นรากฐานของธุรกิจและ AI ก็เป็นเหมือนเครื่องมือที่เข้ามารีดเร้นคัดเอาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมาใช้ให้มากขึ้นด้วย

 

ในการสำรวจของ eMarketer นั้น ผู้บริหารในองค์กรใหญ่ๆ ได้ให้ความเห็นถึงงานที่ AI จะเข้ามาช่วยในธุรกิจได้คือ

 

  1. ใช้วิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อนได้แม่นยำมากกว่า

ข้อมูลที่มีความซับซ้อน มีจำนวนมากมายมหาศาลที่ถูกกักเก็บจากเทคโนโลยีการจัดเก็บที่ทรงประสิทธิภาพ หากจะใช้แรงงานคนทั้งหมดในการจัดการและประมวลผล เราสามารถบอกได้เลยว่าคงไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น  AI จึงเป็นคำตอบที่ดีในการทำงานประมวลผลข้อมูลนั้นด้วยความถูกต้อง แม่นยำ และนำเสนอได้ภายในระยะเวลาอันจำกัด เรามีตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วหลายอย่างเช่น

 

ด้านการค้นหาในระบบออนไลน์ – ในสมัยก่อนบางครั้งผลลัพธ์ในการค้นหาอาจไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ไม่เหมาะนำไปใช้งาน แต่ปัจจุบันการค้นหาใน Google แค่คีย์เวิร์ดคำเดียวก็สามารถหาข้อมูลที่ตรงใจได้ เพราะระบบ AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ด เพื่อให้สามารถได้ข้อมูลที่ต้องการค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าความผิดพลาดมีน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก

ด้านการเงินการทุน – การเล่นหุ้นหรือการลงทุนจะรวดเร็วขึ้น เพราะปัจจัยการคิดและวิเคราะห์จาก AI จะช่วยรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่สำคัญและนำมาประมวลผลหาโอกาสหรือความเป็นไปได้ในการลงทุนที่ทำให้ได้ผลกำไรในระยะเวลาอันสั้น

ด้านสุขภาพ – การวิเคราะห์หรือตรวจหาโรคจะทำได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น คำว่าป่วยระยะสุดท้ายหรือเกินเยียวยาด้วยสาเหตุการวิเคราะห์ล่าช้าจะกลายเป็นเรื่องเก่าไป เพราะ AI สามารถทำการสแกนเพื่อค้นหาจุดผิดปกติ รวมถึงการให้คำแนะนำกับแพทย์เพื่อใช้ในการพิจารณาได้ เคยมีการทดลองใช้ตรวจสอบมะเร็งเต้านมในสหรัฐฯ ระบบ AI สามารถตรวจพบความผิดปกติที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม และช่วยให้ผู้หญิงกว่า 52% สามารถหายจากโรคมะเร็งก่อนที่แพทย์จะตรวจพบ

ด้านการตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายออนไลน์ – ในขณะที่ e-Commerce กำลังเติบโตอยู่ การซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายรวมไปถึงการฟอกเงินเกิดขึ้นง่ายมาก  สินค้าออนไลน์กว่าล้านชิ้นจะตรวจสอบกันอย่างไรให้ถูกต้องและรวดเร็ว AI สามารถเรียนรู้และตรวจสอบได้ว่าสินค้าประเภทใดผิดกฎหมาย รวมไปถึงตรวจสอบรายละเอียดของผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อวิเคราะห์ว่าการซื้อขายในแต่ละครั้งได้ว่ามีข้อพิรุธอะไรที่นำไปสู่การฟอกเงินหรือไม่

ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล – ปัจจุบันมีมัลเเวร์เกิดขึ้นใหม่กว่า 3 แสนไฟล์ทุกวัน ซึ่งมีความแตกต่างกันไม่เกิน 10% ทำให้การตรวจสอบติดตามทำได้ยากมาก แต่ระบบ AI สามารถแยกแยะได้ทันทีว่าไฟล์ไหนเป็นมัลแวร์คุกคาม โดยเฉพาะปัจจุบันนี้มีการใช้ระบบคลาวด์ ระบบ AI จึงยิ่งมีความสำคัญในการตรวจสอบข้อมูล

นี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ เท่านั้น ยังมีอีกหลายวงการและมิติทางธุรกิจที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล 

  1. เปิดโอกาสในการ “สร้างสรรค์” บริการและความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่าเดิม

การสร้างสรรค์รูปแบบบริการใหม่ๆ ได้จากการสนับสนุนการทำงานของ  AI เรามีตัวอย่างเช่น Chatbot ที่เราสามารถเพิ่มลูกเล่นในการรับมือกับลูกค้าและบริการได้จากข้อมูลการถามตอบกับลูกค้า หรือการที่ AI สามารถประเมินผลพฤติกรรมผู้บริโภค ประวัติการซื้อทั้งก่อน ระหว่างและหลังการซื้อ เหล่านี้สามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างถูกต้องเพื่อให้เราสามารถเลือกขายสินค้าที่ตรงใจมากขึ้น แถมยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ถูกจริตผู้บริโภคแต่ละคนได้มากกว่าเดิม

สำหรับการตลาดและการสร้างความประทับใจของคนยุคใหม่ที่ชอบหาข้อมูลด้วยตัวเอง AI สามารถช่วยสร้างแบรนด์ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัยน่าสนใจได้ ตั้งแต่สามารถช่วยสร้างเว็บไซต์ที่สวยงาม ครบด้วยการใช้งานที่เหมาะกับลูกค้าคาดหวังและลูกค้าตัวจริง ช่วยทำ SEO ให้ได้ผลดีตอบโจทย์การค้นหาของลูกค้าได้ดีขึ้น ทั้งช่วยสร้าง ช่วยเชื่อมโยงเนื้อหาที่ดึงดูดผู้อ่านได้มากขึ้น ไปจนถึงช่วยให้การโปรโมทสินค้าและทำโฆษณามีประสิทธิภาพโดนใจลูกค้า 

  1. ช่วยเจ้าของธุรกิจให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น

AI จะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจในธุรกิจเพราะ AI สามารถทำงานประมวลผลซึ่งว่ากันด้วยข้อมูลล้วนๆมาวิเคราะห์ และตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่เคยมีมาก่อน เพื่อหาทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด มีความเสี่ยงน้อยที่สุด หรือใช้เวลาน้อยที่สุดได้ โดยเรียกว่าการค้นหาทางเลือกที่ Optimize ที่สุดบนข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้เราตัดสินใจเรื่องยากๆ จากข้อมูลที่ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจจำนวนมหาศาล แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับของมนุษย์ เพราะ AI ไม่ได้นำเรื่องของ Sense อารมณ์ ความชอบ รสนิยม ความคิดเห็น ความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือการวัดดวงมาใช้ เหมือนที่มนุษย์อาจใช้สติปัญญาและประสบการณ์ในการตัดสินใจ แต่แฝงด้วยสัญชาติญาณและความรู้สึกที่อยู่ในตัว  และนั่นทำไม AI จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์แก่เจ้าของธุรกิจอยู่ไม่น้อย

 

ประโยชน์ของ AI กับการใช้งานในภาคธุรกิจ 3

ภาพจาก: https://www.emarketer.com/Report/Artificial-Intelligence-Marketers-2018-Finding-Value-Beyond-Hype/2002140

 

ความน่ากังวลของ AI ในอนาคต

 

ที่เรายกตัวอย่างมาข้างต้นพอให้คุณเห็นภาพได้ว่า AI จะเข้ามาอยู่ในชีวิตได้อย่างไรบ้าง แต่ทำไมยังคงมีเรื่องกังวลอีก ในเมื่อให้ประโยชน์ได้มากขนาดนี้? ตามที่บอกไปตอนต้นจากบทความ: เมื่อเราพูดถึง AI คุณนึกถึงอะไร? ว่าตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็น AI ล้ำยุคใหม่ๆอยู่ในตลาดโลกเพียง 5% และหลายชนิดยังเป็น prototype (ต้นแบบ) อยู่ แต่หลายบริษัทใหญ่ในโลกก็กำลังทุ่มเทวิจัยและพัฒนา AI กันอย่างไม่หยุดยั้งเพราะประโยชน์ของ AI ก็มีมากเกินกว่าจะบรรยายได้หมด แต่จากข่าวด้านลบของ AI ที่เคยได้ยิน เราอาจกังวลใจในเรื่องที่ว่า สิ่งเหล่านี้ทำงานได้ดีมาก อีกหน่อยจะเข้ามาแทนที่แรงงานคน ทำให้มนุษย์อย่างเราอาจตกงานได้ หรือหาก AI ฉลาดกว่า เราๆที่เป็นมนุษย์จะคุมไม่อยู่ ดังนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองไปด้วย กระทั่งแจ๊ค หม่า มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทอาลีบาบา ธุรกิจ e-commerce ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าเราไม่ปฏิวัติการศึกษาและเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ ในอีก 30 ปีข้างหน้า ลูกหลานของเราจะสู้หุ่นยนต์ไม่ได้อย่างแน่นอน … เราต้องสอนสิ่งที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้ … “

 

 

แถมปัจจุบัน การพัฒนา AI ถูกทุ่มเทแบบสุดกำลังจากค่ายยักษ์ใหญ่ทุกค่ายในโลก และภายในปี 2020 จะมีอาชีพเกิดใหม่มากมายแน่นอน แต่เราบอกได้เลยว่าความน่ากังวลไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเหล่านี้ มันส่งผลกระทบรุนแรงและน่ากังวลมากกว่านั้นมาก

ว่ากันว่าหากการพัฒนา AI ทำอย่างรวดเร็วจนเกินไป ประกอบกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีจารกรรมมาตลอด จึงมีความกังวลว่า AI อาจถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการร้าย เช่น

– การรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับวิธีการโจมตีแบบหลายทางเพื่อตรวจหาและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในสภาพแวดล้อมของผู้ให้บริการระบบคลาวด์

– การสร้างมัลแวร์จาก AI เพื่อสร้างการโจมตีแบบใหม่ เจ้าของธุรกิจมีโอกาสโดนโจมตีในระดับรุนแรงหากถูกบุกรุกหรือหยุดทำงาน

– การแทรกแซงบังคับควมคุมสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจาก AI ทั้งรถยนต์ไร้คนขับ โดรนส่งของ โดรนทำงานของรัฐบาล ฯลฯ

– การบิดเบือนข่าวสาร วิดีโอ การสื่อสาร หรือการแอบอ้างบุคคลสำคัญเพื่อส่งสารที่สร้างความเข้าใจผิด

– การจัดฉากเหตุการณ์ ไปจนถึงการขโมยและแบ่งปันข้อมูลลับ และอาจนำไปสู่การคุกคามมนุษย์ด้วยกัน

แม้ว่าที่กล่าวมายังไม่ครอบคลุมความสามารถของ AI ที่จะถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดทั้งหมด แต่ก็พอจะสะท้อนให้เราคาดการณ์ทิศทางความเสียหายที่อาจเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามการพัฒนานั้นเกิดขึ้นได้ หากผู้ผลิตมีการออกแบบเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผลพวงจากการพัฒนา ผู้ที่มีส่วนร่วมกับการใช้งาน  AI ต้องเตรียมการเพื่อรองรับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องออกกฏหมายใหม่มาเพื่อให้สามารถเท่าทัน ปกป้อง และรับมือกับปัญหาได้ เราเชื่อว่าจากนี้ไปภัยจาก AI จะไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากรู้จักกับมันมากขึ้นและรู้วิธีป้องกันไว้ อย่างน้อยก็ทำให้ปัญหาที่อาจจะรุนแรงให้กลายเป็นเรื่องเบาบางลงได้

 

กว่าจะถึงตรงนั้นเรายังมีเวลาศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องของ AI ได้อีกมาก แม้ว่าจะมีข้อน่ากังวลมากมาย แต่พอเราพูดถึงประโยชน์มหาศาลของ AI ที่เราจะใช้ได้ก็นับว่าคุ้มค่า ยิ่งเราเข้าใจหลักการทำงานได้มากจนพอรู้ว่าจะนำเอาไปใช้ประโยชน์ ลดทอนความเสี่ยงและป้องกันปัญหาได้อย่างไร การคว้าโอกาสที่ดีในอนาคตจากการใช้ AI เห็นทีจะวาววับอยู่ข้างนี้แล้วล่ะค่ะ

Tags

What do you think?

Related articles