อาชีพ Outsource เป็นอาชีพทางเลือกอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นอาชีพที่ทำให้หลายๆ คนตั้งตัวได้ หรือแม้กระทั่งขยับขยายไปทำอาชีพในฝันได้ เพราะอาชีพ Outsource จะเปิดประตูสู่อาชีพเหล่านั้น อาชีพ Outsource คืออะไร ? อาชีพ Outsource เป็นรูปแบบการจ้างงานรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นในองค์กร ตัวอย่างเช่น การจ้างคนเข้าไปทำงานในบริษัท จะแบ่งประเป็นประเภทการจ้างงานต่างๆ ซึ่งอาจจะประกอบไปด้วย พนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว ฟรีแลนซ์ คอนแทรกเตอร์ และ
Outsource ที่ดีควรมี Service Mind Service Mind ถือเป็นหัวใจสำคัญของงานบริการ งานOutsourceก็ถือเป็นงานบริการอย่างหนึ่ง การแสดงออกให้ลูกค้าเห็นถึงความเอาใจใส่ของคุณที่มีต่อลูกค้า ให้สมกับความไว้วางใจเลือกคุณ โดยแยกออกเป็น Service หรือบริการ S (smile) แปลว่ายิ้มแย้ม ยิ้มแย้มเข้าไว้เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกดี ๆ ฝึกยิ้มบ่อย ๆ โดยฝึกยิ้มกับกระจก เวลาพูดให้มองกระจกไปด้วย ยิ้มไปเพื่อให้เกิดรอยยิ้มในน้ำเสียง แม้ไม่ได้เห็นหน้ากันก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนพูดกำลังยิ้มอยู่ E
สำหรับคำถามที่น้องๆควรรู้ไว้เพื่อตอบตัวเองหรือเตรียมตัวให้พร้อมก่อนหางานให้ประสบความสำเร็จค่ะ 1. เราต้องการเป็นอะไร? ถ้าเรายังไม่มีจุดมุ่งหมายเส้นทางที่เราเดินมันจะสะเปะสะปะค่ะ และเสียเวลา ถ้าเรายังค้นหาตัวเองไม่พบ แนวทางที่แนะนำคืออย่างน้อยน้องควรจะรู้ว่าตัวเองมีบุคลิกภาพแบบไหน เพื่อที่จะหาลักษณะงานที่ตรงกับบุคลิกภาพของเรา อันนี้ก็จะทำให้การทำงานสนุกขึ้นมาได้ค่ะ เช่นเป็นคนที่ไม่ชอบนั่งทำงานนานๆอยู่กับที่ ชอบสอน ชอบที่จะนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแต่เรียนเก่งด้าน IT ดังนั้นการ หางาน IT ของน้องคนนี้อาจเป็นงานขาย หรืองานสอนด้าน IT ซึ่งลักษณะงานจะต้องการคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีค่ะ ลองค้นหาดูว่าตัวเองต้องการเป็นอะไร 2. มีประสบการณ์การทำงานบ้างไหม? “งานส่วนใหญ่ต้องการคนมีประสบการณ์อย่างน้อย 1 ปี เด็กจบใหม่ก็ไม่มีโอกาสสิพี่” อีกคำถามที่โดนถามมากๆ ใช่ค่ะนายจ้างส่วนมากหรือทั้งหมดแหละค่ะ ที่ต้องการลูกจ้างที่มีประสบการณ์ในการทำงานในด้านนั้นๆ เพราะจะได้ไม่เสียเวลามาสอนงานกันใหม่อีก 4-6
Regression testing คือ การทดสอบโปรแกรมที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไข เพื่อให้แน่ใจว่า ส่วนอื่นๆที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสามารถทำงานร่วมกับส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว กระบวนการนี้จะอยู่ในกระบวนการของ develop ก่อนที่จะมีการปล่อย version ใหม่ของ software ออกไปนั้น จำเป็นจะต้องทดสอบ software นั้นด้วย scenario เดิมที่เคยทดสอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า software ตัวใหม่จะสามารถทำงานได้อย่างเดิม Re-testing
เมื่อนักพัฒนาได้พัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาแล้วนั้น เราต้องมีการทดสอบว่าซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนานั้น มีความถูกต้องหรือไม่ เรียกได้ว่า เป็นการทดสอบแบบ Functional testing แต่เมื่อเรามีการทดสอบความถูกต้องของการทำงานแล้วนั้น เราก็จำเป็นจะต้องมีการทดสอบที่นอกเหนือจากการทดสอบความถูกต้องของซอฟต์แวร์นั้น เป็นการทดสอบแบบ non-functional testing Performance testing เป็นการทดสอบอย่างหนึ่งใน non-functional testing คือเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เช่น ทดสอบว่า ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมานั้นสามารถรองรับการทำงานหนักได้ดีมากน้อยเท่าใด เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ซอฟต์แวร์นั้นมีการตอบสนองเป็นอย่างไร Performance testing