Technology News TH

“โอ๊ย เหนื่อย” “เบื่อ ไม่อยากทำ” “พอแล้ว ฉันจะลาออก” แม้จะบ่นแค่ไหนเหล่ามนุษย์วัยกลางคนก็หนีจากงานไปไม่ได้อยู่ดี และเหตุผลที่ทำให้งานเป็นดั่ง “วิญญาณที่คอยตามติดตลอดเวลา” ก็คงไม่ใช่แค่ตัวเนื้องาน แต่รวมไปถึงปัญหาระหว่างทางที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านอุปกรณ์ ด้านเวลา หรือด้านการสื่อสาร ซึ่งล้วนส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของการทำงาน อย่างไรก็ตามปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยเหลือและจัดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานเป็นไปได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้การเข้าใจถึงปัญหาและจัดการกับมันโดยเร็วที่สุดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับทุกคน   ความขัดแย้งระหว่างการทำงาน    ทุกคนต่างเคยตกอยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างการทำงาน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง กระบวนการการทำงานที่ผิดพลาด

เมื่อปลายปีที่แล้ว ทาง Microsoft ได้มีการประกาศเครื่องมือใหม่ที่น่าตื่นเต้นหลายอย่าง ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หนึ่งในนั้นคือ Microsoft Designer    Microsoft Designer เป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยให้คุณสร้างงานออกแบบที่น่าทึ่งได้ในไม่กี่นาที ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย คุณสามารถสร้างทุกอย่างตั้งแต่ภาพธรรมดาไปจนถึงอินโฟกราฟิกที่ซับซ้อน    ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า Microsoft Designer คืออะไร ทํางานอย่างไร และคุณสามารถนำมาใช้ทําอะไรได้บ้าง      Microsoft Designer คืออะไร?   Microsoft Designer เป็นเครื่องมือออกแบบบนเว็บที่ให้คุณสร้างกราฟิก ภาพประกอบและภาพอื่น ๆ เท่าที่คุณจะนึกออก ซึ่งสามารถช่วยคุณสร้างการออกแบบที่ดูเป็นมืออาชีพ แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบเลยก็ตาม  คุณเพียงแค่อธิบายให้ Microsoft Designer

ภาษา programming ก็เปรียบเสมือนภาษาพูดของคนเรา เมื่อคนเราเรียนรู้ภาษาได้หลากหลายกว่าก็มีโอกาสหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้มากกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ก็เหมือนกัน ปัจจุบันภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมต่าง ๆ ก็มีการพัฒนามาอยู่เรื่อย ๆ และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนี้ไปถึงอนาคต โปรแกรมเมอร์จึงต้องอัปเดตความสามารถในการเขียนโปรแกรมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น   10 ภาษา programming ยอดนิยมในปัจจุบัน   อ้างอิงจาก TIOBE Programming community index หรือเว็บไซต์ดัชนีตัวบ่งชี้ความนิยมของ Programming

เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในเดือนที่จะมาถึง อีกทั้งค่าไฟฟ้าก็อยู่ในช่วงที่ราคาแพงที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ทุกคนกำลังมองหาวิธีในการทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ารอบตัวเรา สามารถรักษาความเย็นเอาไว้ได้ โดยใช้พลังงานน้อยลง 8 มาตรการต่อไปนี้สามารถช่วยคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ที่บ้าน ปรับอุณหภูมิ : เพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศของคุณให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย 2-3 องศา เพื่อประหยัดพลังงาน โดยการตั้งค่าอุณหภูมิเย็นสบายที่คุณยังสามารถทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ โดยที่เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักจนเกินไป และการเปิดพัดลมช่วยอีกทางจะเป็นการเพิ่มการไหลเวียนของอากาศให้ดีขึ้น ใช้แสงธรรมชาติ : ควรใช้แสงธรรมชาติแทนแสงจากหลอดไฟทุกครั้งที่ทำได้ ควรเปิดม่านเพื่อรับแสงธรรมชาติผ่านทางประตูหรือหน้าต่างและหลีกเลี่ยงการเปิดไฟที่ไม่จำเป็น ทำงานในช่วงเวลาที่อากาศเย็น : หากคุณจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่า อีเมลทางธุรกิจที่ใช้กันในบริษัทต่าง ๆ นั้น ระหว่างค่าย Google และ Microsoft นั้น เจ้าไหนมีอะไรบ้างหรือมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เราขอชวนคุณมาดูการเปรียบเทียบข้อแตกต่างที่น่าสนใจ และหากต้อง Battle กันแบบหมัดต่อหมัดระหว่างสองค่ายยักษ์ใหญ่นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง     รู้จักจุดเริ่มต้นธุรกิจของ Google และ Microsoft     Microsoft ความเป็นมาของ Microsoft

ทราบหรือไม่ว่ายุค Web 3.0 กำลังเขยิบเข้ามาใกล้เราอีกนิดแล้ว หลายคนอาจจะงงว่า แล้ว 1.0 และ 2.0 คืออะไร เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เรามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร ก่อนอื่นเราจะพาย้อนกลับไปว่า วิวัฒนาการในการใช้เว็บไซต์มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง   ช่วงแรก Web 1.0 (ปี 1990 – 2000)  เว็บไซต์ในยุคเริ่มต้น เกิดขึ้นในราวๆ ปี 1989 โดย ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) วิศวกรด้านคอมพิวเตอร์ของอังกฤษ ผู้คิดค้นวิธีการสื่อสารข้อความหลายมิติ (Hypertext) เพื่อสื่อสารข้อมูลหากันโดยใช้อินเทอร์เน็ต ในชื่อ World Wide Web มีการใช้องค์ประกอบพื้นฐานของเว็บไซต์ อย่าง HTTP, HTML และ URL ในการสร้างเว็บไซต์ ในสมัยนั้น Web 1.0 ยังเป็นแค่การสื่อสารแบบทางเดียว (One Way Communication) เน้นให้ผู้ใช้เข้าไปอ่าน โดยไม่มีการโต้ตอบกลับมาใด ๆ    ช่วงต่อมา Web 2.0 (ปี 2005-2020)  เว็บไซต์ในยุคนี้สามารถทำได้ทั้งอ่านและเขียน เพื่อโต้ตอบกันได้อย่างอิสระเป็นแบบสื่อสารสองทาง (Two Way Communication) และข้อมูลข่าวสารที่มีการนำเสนอนั้นจะมีการพัฒนาเป็นแบบ Dynamic สามารถอัปเดตข่าวสารได้ตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้บริโภคในการสร้างสรรค์เนื้อหา Content ต่าง ๆ หรือ พูดคุยโต้ตอบระหว่างกันบนเว็บไซต์ได้ ทำให้การปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เกิดเป็นสังคมออนไลน์ Social