May 14, 2020
ประโยชน์และความท้าทายของการทำงานที่บ้าน | WFH อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
คุณทราบหรือไม่ว่าการทำงานที่บ้านสามารถช่วยให้เราทำงานได้ดียิ่งขึ้น?
ที่เราบอกอย่างนี้เพราะว่า เคยมีการทดลองของ CTrip บริษัทท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนที่ลองให้พนักงานทำงานที่บ้าน บริษัทนี้มีพนักงานจำนวน 16,000 โดยทดลองสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน Call Center ที่ถูกสุ่มให้ทำงานที่บ้านเป็นเวลา 9 เดือน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการทำงานที่บ้านช่วยให้พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้น 13% แถมยังช่วยให้บริษัทมีผลประกอบการที่มากขึ้นถึง 22% ด้วยกัน
นอกจากนั้นยังมีบริษัทที่เรารู้จักกันดีอย่าง Microsoft ที่ได้ทดลองใช้มาตรการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ภายใต้โครงการ Work-Life Choice Challenge Summer 2019 โดยเริ่มที่บริษัทในญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2019 ที่ผ่านมา แถมยังปิดสำนักงานทุกวันศุกร์เพื่อเพิ่มวันหยุดให้กับพนักงานอีก 1 วันต่อ มีผลกับพนักงานของ Microsoft ในญี่ปุ่นราว 90% ของพนักงานทั้งสิ้น 2,280 คน ผลลัพธ์ที่ได้คือ แม้ว่าชั่วโมงการทำงานจะลดลงอย่างมาก แต่ประสิทธิภาพในการทำงานกลับเพิ่มขึ้น จากการที่ยอดขายต่อพนักงานเพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปี 2018 ที่ผ่านมา นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่า การทำงานที่บ้านอาจช่วยส่งผลให้เราทำงานได้ดีขึ้น
ประโยชน์ของการทำงานที่บ้านมีอะไรบ้าง?
ทำไมการทำงานที่บ้านจึงช่วยให้เราทำงานได้ดียิ่งขึ้น?
- มีแค่คุณกับงาน
ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะตอนที่คุณทำงานอย่างกระตือรือร้น ทั้งการประชุม สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์แทบทุกชั่วโมง หรือเพื่อนร่วมงานที่เดินมาทักทายชวนพูดคุย ตอนนี้มีแค่คุณกับงานเท่านั้น - จัดบรรยากาศการทำงานแบบที่คุณชอบ
สามารถจัดบรรยากาศการทำงานในแบบที่คุณต้องการ หรือจะเรียกอีกอย่างว่าพื้นที่ทำงานในสไตล์ที่คุณต้องการ ที่จะช่วยเพิ่มพลังและกำลังใจให้คุณพร้อมทำงานได้เป็นอย่างดี - เป็นตัวของตัวเอง
ไม่มีใครคอยจ้องมองคุณ นี่เป็นโอกาสที่คุณจะทำงานในลักษณะหรือรูปแบบที่คุณชอบ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ และสนุกมากขึ้น แถมยังมีโอกาสได้ทดลองทำงานตามทฤษฎีบางอย่างที่คุณสนใจอีกด้วย - มีเวลามากขึ้น ในเมื่อตารางการทำงานขึ้นอยู่กับตัวคุณเองแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางที่น่าเบื่อในเวลาเช้าหรือเย็น เพิ่มเวลาให้คุณอีกมากมายสำหรับเวลาส่วนตัวและเวลาทำงาน
อุปสรรคและความท้าทายของการทำงานที่บ้าน
กระนั้นก็ตามการทำงานที่บ้านอาจจะมีอุปสรรคและความท้าทายบางอย่างเล็กน้อย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการจัดการกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคุณต้องทำงานที่บ้าน
- เสียสมาธิเพราะอยู่บ้าน
เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเสียสมาธิไปกับคนในครอบครัว หรือสัตว์เลี้ยง อย่างน้อยที่สุดควรปิดประตูในเวลาทำงาน หรือจัดการพื้นที่เข้าออกบริเวณที่คุณนั่งทำงาน เพื่อลดสิ่งรบกวน - ไปต่อไม่ถูก
พอไม่มีเพื่อนร่วมงานหรือคนที่สามารถคอยช่วยเหลือชี้แนะเวลาทำงาน คุณจะรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะต้องจัดการกับงานชิ้นนี้อย่างไร ควรประสานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสอบถามให้คลายความกังวลและข้อสงสัย อัปเดตความคืบหน้าของงาน และรายงานการทำงานของแต่ละวันกับหัวหน้าทีมของคุณเมื่อเสร็จสิ้นในแต่ละวัน - เวลาทำงานล้นเกินพอดี
เมื่อขอบเขตเวลาถูกขยายให้กว้างขึ้น คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าเดิม เพราะมองว่าไม่ต้องลุกออกจากออฟฟิศเพื่อเดินทางกลับบ้าน ไม่เสียเวลากับอย่างอื่นเลยจนทำงานเสียลืมเวลา ฉะนั้นกำหนดเวลาและปริมาณงานให้พอเหมาะพอดี ไม่ให้หนักมากจนเกินเวลาส่วนตัวของคุณ - ขาดแรงจูงใจ
การทำงานที่บ้านเป็นระยะเวลานานอาจทำให้คุณรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว ขาดแรงจูงใจได้ ควรถาม-ตอบกับตัวเองให้แน่นอนถึงทิศทางและเป้าหมายในการทำงาน ค้นหาแรงจูงใจที่จะช่วยให้คุณรู้สึกอยากทำงานและมีพลังอยู่เสมอ
ทำงานที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร?
นั่นสิ! เราขอแนะนำดังนี้
- สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองได้ บางคนสามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมไหน ต่อให้เสียงดัง หรือมีสิ่งรบกวนมากมายเกิดขึ้นแต่ยังคงสามารถทำงานต่อไปได้ คนเหล่านี้ไม่ต้องอาศัยแรงูงใจในการทำงาน แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าลงมือทำไม่ได้สักที คุณอาจจะต้องเพิ่มแรงจูงใจเพื่อที่จะช่วยผลักดันตัวคุณไปข้างหน้าให้ได้ งานต้องเดิน ผลงานต้องมี ฉะนั้นค้นหาแรงจูงใจที่จะช่วยให้คุณมีทั้งพลัง ความมั่นใจ ทัศนคติในแง่บวก และจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
- ตัดสิ่งรบกวนรอบข้าง สิ่งที่จะส่งผลให้คุณไม่สามารถจดจ่ออยู่กับงานได้มากที่สุด เช่น งานบ้าน ห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของ การขัดจังหวะจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทที่มักทักทายมาผ่านทางออนไลน์ คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบจัดการสิ่งเหล่านี้ให้หมดกังวล ง่ายที่สุดอาจเริ่มจากการปิดประตู
- ลดการใช้ Social Media ในระหว่างทำงาน แน่นอนว่า Social Media เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการติดต่อสื่อสาร คุณจึงควรที่จะแบ่งเวลาเพื่อติดตามข่าวสาร พูดคุยกับคนอื่นๆ และติดตามการแจ้งเตือนต่างๆ เราแนะนำว่าคุณควรจะปิดเสียงแจ้งเตือน และเช็คโทรศัพท์เป็นครั้งคราวเท่านั้น
- รู้ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร ตั้งเป้าหมายของคุณให้ชัด สิ่งที่คุณจะต้องทำในให้เสร็จมีอะไรบ้าง คุณควรจัดตารางการทำงานทั้งแบบระยะสั้นเป็นแบบ Daily Task / Weekly Task อย่างมีรายละเอียด และแผนงานระยะยาว Monthly Task วางแผนการทำงานให้รัดกุม แล้วเดินทางตามแผนที่ได้วางไว้ ถ้าจะให้ดีควรแชร์แผนงานนี้กับเพื่อนร่วมทีมของคุณด้วย
- มีเครื่องมือและช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมในการทำงาน คุณและทีมควรมีเครื่องมือกลางในการทำงานร่วมกัน ตกลงกันว่าจะใช้เครื่องมือชนิดใดในการทำงาน โดยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ติดขัด ควบรวมถึงการสื่อสารเพื่อประสานงานกันและกัน คุณและทีมต้องการใช้ผ่านแพลตฟอร์มใด
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่ 2) - January 17, 2023
- Aware สานฝันและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการย้ายสายงานมาเป็น Developer (ตอนที่1) - January 17, 2023
- จบไม่ตรงสายจะเปลี่ยนสายงานมาเป็น Developer ได้อย่างไร - January 17, 2023
- เราจะสร้าง Digital Footprint ที่เป็นมิตรต่อการสมัครงานได้อย่างไร - March 29, 2022
- Digital Footprint ร่องรอยบนดิจิทัลที่เราทิ้งไว้สำคัญแค่ไหน - March 9, 2022
- Hybrid Working – รูปแบบใหม่ของการทำงาน | Aware Group - December 7, 2021
- บางนา มามะ จะพาไปดู - November 12, 2021
- Project Leader! ผู้นำคนสำคัญที่จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จ - November 3, 2021
- Pride Month 2021 | Aware People - June 2, 2021
- 5 วิธีปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ - May 25, 2021